พิชิต...เขาร้อยยอด จุดชมวิวที่สูงที่สุดในตัวเมืองชุมพร ยอดเขาหินเล็กๆ รองรับประมาณ 10-20 คน สามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ มองเห็นยอดเขามากมายหลายร้อยยอด
เส้นทางนำเที่ยวเขาถ้ำศิลางู ธรรมชาติที่มีเรื่องเล่า ท่านนายกก้อย นายก อบต.ถ้ำสิงห์ให้เกียรติเล่าให้ฟังว่ามีชาวบ้านฝันเห็นงูใหญ่ ณ ที่แห่งนี้ จึงมีประเพณีประจำปีเพื่อสักการะพ่อท่านพญานาคราช ทุกวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี หน้าถ้ำจะมีแท่นหินที่ธรรมชาติปั้นแต่งได้เหมือนพญานาคราชและมีบริวารงูตัวเล็กๆที่เกิดจากหินย้อยมากมายหลายตัว ที่เที่ยวอีกที่ที่ต้องไปใน จ.ชุมพร
เส้นทางนำเที่ยวตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เมื่อสมัยก่อนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าทึบประกอบไปด้วยภูเขา ที่บ้านถ้ำสิงห์ หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ ในปัจจุบันมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งซึ่งใหญ่โตมาก มองดูจากที่ไกลคล้ายรูปสิงห์โตกำลังหมอบอยู่ลักษณะอ้าปาก ปากที่อ้าก็คือถ้ำภายในถ้ำมีหินงอกตามธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายสิงห์โตอยู่อีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือของชาวบ้าน เลยเรียกกันว่า ถ้ำสิงห์
ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอำเภอ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร ระยะทาง 24 กิโลเมตร
ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เมื่อสมัยก่อนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าทึบประกอบไปด้วยภูเขา ที่บ้านถ้ำสิงห์ หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ ในปัจจุบันมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งซึ่งใหญ่โตมาก มองดูจากที่ไกลคล้ายรูปสิงห์โตกำลังหมอบอยู่ลักษณะอ้าปาก ปากที่อ้าก็คือถ้ำภายในถ้ำมีหินงอกตามธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายสิงห์โตอยู่อีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือของชาวบ้าน เลยเรียกกันว่า ถ้ำสิงห์
ต่อมาเมื่อมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจึงได้รวมกลุ่มกันไปขายให้กับบริษัทผงไทยหรือเนสเล่ห์ในปัจจุบัน ที่กรุงเทพมหานคร สร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมากจนเป็นที่รู้จักของพ่อค้า แม่ค้าในตลาดชุมพรว่าคนถ้ำสิงห์ซื้อของง่าย ใช้เงินคล่อง
ปี พ.ศ 2522 ราคากาแฟขึ้นสูงสุดถึง 120 บาท/กิโลกรัมเป็นประวัติการณ์ เกษตรกรมีเงินเก็บและฝากไว้กับธนาคารเป็นจำนวนมากและเริ่มมองหาพื้นที่ปลูกกาแฟเพิ่มจึงได้ไปจับจอง ซื้อที่ดิน ที่ปากจั่น อำเภอกระบุรี ที่เขาค่าย เขาทะลุ ที่รับร่อ สลุย อำเภอท่าแซะ ทำให้พื้นที่ปลูกกาแฟขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจังหวัดชุมพร
ปี พ.ศ 2530 ราคากาแฟเริ่มตกต่ำ ผลผลิตต่อไร่เริ่มลดลงราคาไม่จูงใจต่อการมีอาชีพปลูกกาแฟ เกษตรกรเริ่มมีปัญหาเรื่องราคาผลิตแล้วไม่คุ้มทุน เริ่มมีการประท้วงให้รัฐบาลเข้ามาประกันราคาขั้นต่ำ
ปี พ.ศ 2530 รัฐบาลสมัยนั้นจึงเริ่มโครงการลดพื้นที่ปลูกกาแฟเพื่อมิให้กาแฟล้นตลาดโดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 6,800 บาท เกษตรกรจึงเข้าร่วมโครงการลดพื้นที่ปลูกกาแฟ ทำให้กาแฟถ้ำสิงห์ลดลงเหลือประมาณ 10 %ของพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งหมด
เมื่อตัดต้นกาแฟหมดจึงเหลือเพียง ทุเรียน มังคุด กล้วยหอม เกษตรกรจึงเริ่มมาทำทุเรียนนอกฤดู ผลผลิตที่ได้จึงมีราคาสูง สร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อมีการทำทุเรียนนอกฤดูเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุมสุดท้ายก็ทำให้ราคาผลผลิตทุเรียนนอกฤดูใกล้เคียงกับราคาทุเรียนในฤดูกาล ทำให้เกษตรกรผลิตแล้วไม่คุ้มทุน ประกอบกับเมื่อมีการปลูกพืชเชิงเดี่ยวกันมากทำให้โรคแมลงระบาดอย่างรวดเร็ว ทุเรียนล้มตายเป็นจำนวนมาก เงินทองที่เก็บไว้เริ่มหมดจึงได้ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินของรัฐ และเอกชนรวมทั้งเงินกู้นอกระบบเพื่อที่จะเอามาลงทุนในสวนทุเรียนนอกฤดูแต่ก็ล้มเหลวเนื่องจากพืชมีความต้านทานต่อสารเคมี ผลผลิตจึงไม่ออกตามที่ต้องการ จำเป็นต้องใช้สารเคมีอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้น ทำให้เพิ่มต้นทุนการผลิตเมื่อได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวก็มาประสบกับปัญหาราคาต่ำเงินที่ได้มามีไม่เพียงพอต่อการนำไปชำระหนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องมีการค้างชำระหนี้ เรื่อยมา
จากอดีตที่เคยเฟื่องฟูกับอับเฉาในวันนี้ อันเนื่องมาจากเกษตรกรนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งให้ผลผลิตครั้งเดียวในรอบปีผิดกับเมื่อก่อนปลูกพืชผสมผสานคือมีกาแฟเป็นพืชหลัก ทุเรียน มังคุด กล้วยหอมเป็นพืชรอง จึงทำให้มีรายได้ตลอดปี ความเป็นอยู่ของเกษตรกรจึงไม่เดือดร้อน พึ่งพาตนเองได้อย่างสบาย กาแฟถ้ำสิงห์จึงถือกำเนิดขึ้นจากเหตุปัจจัยดังกล่าว
ถ้ำธารลอดตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๑๘ ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ ที่สำคัญมีน้ำไหลผ่านถ้ำทั้งปี สามารถเข้าชมได้เฉพาะช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี และจะมีกิจกรรมเปิดถ้ำกินฟรีช่วงเทศการสงกรานต์ของทุกปี ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลนาสักร่วมกับประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานราชการห้างร้านต่างๆให้การสนับสนุนกิจกรรม
เส้นทางนำเที่ยวที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่แนวผจญภัย ปีนเขา เดินป่าบนสันเขา ชมดวงตะวันขึ้นขอบฟ้าริมเลอ่าวไทย สัมผัสทะเลหมอกยามเช้า แลดวงตะวันตกชายเขาทะลุ บรรยากาศสวยงามใกล้บ้านเรา เหมาะกับทุกเพศทุกวัย นักท่องเที่ยว สามารถขับรถยนต์ขึ้นบนเขาได้ ส่วนการเดิน เดินประมาณ ๒๐๐ เมตร ขึ้นไปยังชมจุดชมวิว การกางเต็นท์นอน ให้ประสานไปที่ เบอร์โทรของ อบต. ทาง อบต.จะประสานไห้ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำพาไป
เส้นทางนำเที่ยวกลุ่มหม่อนไหมวิสาหกิจชุมชนบ้านสมัยตั้งแต่ก่อนปี 2549 ได้มี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มหม่อนไหมวิสาหกิจชุมชนบ้านป่ากล้วยได้ย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดนครราชสีมา เป็นคนที่รู้วิธีการปลูกหม่อนไหมเป็นอย่างดีจึงมีความคิดที่อยากตั้งกลุ่มขึ้นมาด้วยเหตุผลว่าทำคนเดียวไม่ไหว จึงเริ่มจากการปลูก มาทอให้เป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายใบกล้วย ลายอัตลักษณ์ ลายดอกกาแฟ ลายนกนางแอ่น ลายสมอพร ลายพุทธรักษา ลายเขาทะลุ ล้วนเป็นลายผ้าไหมที่สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สีที่ใช้ย้อมผ้าส่วนจะใช้สีธรรมชาติที่ได้จากวัตถุดิบในพื้นที่ เช่น สีแดงจากแก่นฝาง สีน้ำตาลจากใบกาแฟ ซึ่งเป็นจุดเน้น ให้มีความน่าสนใจเป็นจำนวนมาก และได้ตราพระราชทานสีเงินและสีน้ำเงิน สืบสานให้ลูกหลานและคนอื่น ๆ ได้สืบทอดด้วยความหวงแหนและมีคุณค่าตลอดไปตราบนานเท่านาน
เส้นทางนำเที่ยวในอดีตได้มีผู้มีวิชาทางด้านไสยศาสตร์ คนหนึ่งได้มาตั้งสำนักอยู่ที่กลางทุ่งนาแห่งนี้ และ ได้รับสักร่างกายอยู่ยงคงกระพันและมีลูกศิษย์อยู่มากมาย มีชื่อเสียงมากตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านแถบนั้นจึงเรียกว่า นาสัก
ตำบลนาสักเป็นชุมชนขนาดใหญ่มี 17 หมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขา มีเนื้อที่ประมาณ 1,650 ตารางกิโลเมตร
ใครที่จะมาอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่มีนักท่องเที่ยวแวะมาสัมผัสกับบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย มีพรรณไม้นานาพันธุ์ มีการจัดสวนได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญเป็นที่ประทับของรูปปั้นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนี ด้านหลังเป็นภูเขา มีทางเดินขึ้นถ้ำด้วยการตกแต่งราวบันไดเป็นพญานาคยาวไปถึงหน้าถ้ำ และบนถ้ำมีพระพุทธรูปให้ได้กราบไหว้ มีหินงอกหินย้อยให้ได้ชื่นชมมองลงมาจากด้านล่างจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามส่วนอีกด้านหนึ่งของถ้ำจะมีลิงนับร้อยตัวและมีศาลาให้นั่งพักผ่อนริมแม่น้ำ
เส้นทางนำเที่ยวอีกหนึ่งวัดดังในพื้นที่อำเภอหลังสวน ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าไปชื่นชมความสวยงามของตัวโบสถ์ที่สร้างเป็นเรือสุพรรณหงษ์ มีความสวยงามโดดเด่นมาก โดยบริเวณรอบเรือมีน้ำและดอกบัวล้อมรอบ เมื่อจะเข้าโบสถ์ต้องผ่านบันไดพญานาค ซึ่งมีลวดลายวิจิตรศิลป์น่าชวนให้หลงไหลยิ่งนัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาจะเข้ามาสักการะร่างของพ่อหลวงคล้อยที่ไม่เน่าไม่เปื่อย ซึ่งเป็นที่เคารพและศรัทธาของประชาชนทั่วไป
เส้นทางนำเที่ยวในอดีตการจราจรยังไม่สะดวก การสัญจรไปมายังไม่มีถนน การเดินทางมีแต่เรือแพและลำน้ำเท่านั้น ซึ่งแม่น้ำหลักคือ แม่น้ำหลังสวน ริมฝั่งเป็นดงไม้ คือ "ไม้พลา" ท่าเรืออยู่ริมฝั่งกลางดงไม้ เรียกว่า "ท่าไม้พลา" มีหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้ๆ เรียก "บ้านไม้พลา" เวลาผ่านนานไปเริ่มเพี้ยนเป็น "ท่ามะพลา" มาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันตำบลท่ามะพลา อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอหลังสวน มีจำนวนหมู่บ้านทั้งสิ้น 9 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านแม่ทะเล หมู่ 2 บ้านในลุ่ม หมู่ 3 บ้านหนองเทา หมู่ 4 บ้านหนองหิน หมู่ 5 บ้านทุ่งทอง หมู่ 6 บ้านบ้านชายเขา หมู่ 7 บ้านเขาเงิน หมู่ 8 หมู่ 9 บ้านดอนนนท์
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากกกกกของชุมพร ตั้งอยู่ตำบลนาทุ่ง อ.เมืองชุมพร เอกลักษณ์ของที่นี่ คือ โขดหินมากมายที่วางเรียงรายอยู่บนชายหาด กลายเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวยๆของทุกคนที่มาเช็คอินที่แห่งนี้
เส้นทางนำเที่ยวมีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม คงสภาพที่หาที่ไหนไม่ได้ มีชาวประมงที่หาปลา และจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ
เส้นทางนำเที่ยวจากสะพานพนังตัก ซึ่งเป็นสะพานสูง สามารถชมวิวของหมู่บ้านชาวประมงของตำบลนาทุ่ง เป็นจุดที่แม่น้ำท่าตะเภาไหลลงสู่ทะเล ด้านล่างของสะพาน หรือบนสะพานสามารถตกปลาได้ เช่น ปลากระบอก, ปลากะพง
เส้นทางนำเที่ยววัดนาทุ่ง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2363 เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดนาทุ่งมีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของจังหวัดชุมพร วัดมีความเก่าแก่มากกว่า 200 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมของโบสถ์มีการออกแบบร่วมสมัย ภายในบริเวณวัดนาทุ่งเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านในวันธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อถึงวันพระ พุทธศาสนิกชนในตำบลนาทุ่งและพื้นที่ใกล้เคียงจะหลั่งไหลเข้ามาจนสร้างความคึกคักภายในวัด ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านตำบลนาทุ่ง อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชุมชน แหล่งรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้และวัตถุโบราณของชาวบ้านตำบลนาทุ่งในอดีตเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้
เส้นทางนำเที่ยวบ้านนาทุ่งในอดีตเป็นป่ารก มีที่ลุ่มเป็นนา บริเวณค่อนข้างกว้าง ที่เรียกหัวทุ่งนั้น เป็นทุ่งนาที่ยาวไปจรดทะเล ชาวบ้านเรียกว่า หัวทุ่ง เมื่อมีนาต้องมีหมู่บ้าน เรียกว่า บ้านนาหัวทุ่ง เรียกสั้น ๆ ว่าบ้านนาทุ่ง และเป็นภาษาหนังสือว่า บ้านนาทุ่ง ในปัจจุบันมีหมู่บ้านทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน
จังหวัดชุมพรนั้นมีสินค้าประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วย สมุนไพร หรือน้ำผึ้ง และมีอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้สินค้าใดๆ นั่นคือ กาแฟชุมพร ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงต่างแดน และได้รับการยอมรับจากคอกาแฟทั่วประเทศ
มาทำความรู้จัก “กาแฟชุมพร” หนึ่งในกาแฟที่โดดเด่นที่สุดในเมืองไทย ไม่แพ้ใครในโลกกัน
สวนกาแฟในจังหวัดชุมพร ถือเป็นหนึ่งแหล่งเพาะปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย และเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวชุมพรได้ดี เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศของจังหวัดชุมพรนั้นเหมาะสมกับการปลูกกาแฟโรบัสต้า เพราะต้นกาแฟสายพันธุ์นี้เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ราบต่ำและมีความชื้น นอกจากนั้น ต้นกาแฟสายพันธุ์ยังปลูกง่าย และทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ไม่ต้องพึ่งสารเคมี และใช้ต้นทุนต่ำอีกด้วย
กาแฟโรบัสต้านั้นมีจุดเด่นที่ไม่ซ้ำกับกาแฟสายพันธุ์อื่น เมล็ดกาแฟโรบัสต้านั้นมีลักษณะเป็นทรงกลมมนและมีเส้นผ่าตรงกลางเป็นแนวตรง มีความเข้มและขม ไม่ค่อยติดรสชาติเปรี้ยว รสชาติจึงจะค่อนข้างฝาด อีกทั้งมีระดับน้ำตาลและระดับกรดที่ต่ำ ตอบโจทย์คอกาแฟที่ชื่นชอบความเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 2% - 4.5% ซึ่งถือว่าสูงกว่าการกาแฟอราบิก้าเป็นเท่าตัว จึงนิยมนำมาทำเป็นกาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟคั่ว อย่างไรก็ตาม กว่าจะมาเป็นกาแฟชุมพรอย่างที่เรารู้จัก ต้องผ่านกระบวนการผลิตอันพิถีพิถันหลากหลายขั้นตอน
กาแฟชุมพรไม่ได้มีจุดเด่นแค่เฉพาะสายพันธุ์กาแฟโรบัสต้าอย่างเดียว แต่เนื่องจากความละเอียดอ่อนในกระบวนการผลิต จึงทำให้สวนกาแฟประจำภาคใต้นี้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
เมื่อผ่านการเก็บเกี่ยวแล้ว เมล็ดกาแฟจะถูกนำมาตากแห้งเป็นเวลา 20 นาที จากนั้นจะถูกนำไปอบลมร้อนที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส และนำมาตากในโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์เป็นเวลา 10 วัน ต่อมาเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานที่สุดคือการ “บ่ม” ที่ใช้เวลา 1 ปีเพื่อดึงรสชาติที่อร่อยที่สุดออกมา หลังจากเสร็จสิ้นการบ่ม เมล็ดกาแฟจะถูกนำมาขัดสี เพื่อเอาเปลือกออก ซึ่งเปลือกเหล่านี้ยังสามารถนำไปทำเป็น ปุ๋ยหรือถ่านแท่งได้ จากนั้นจะเป็นการคัดแยกเมล็ดและนำไปคั่วในระดับต่างๆ 3 ระดับ ได้แก่ คั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข็ม สุดท้ายเมล็ดกาแฟที่ถูกคั่วจะถูกนำไปคัดแยก เพื่อค้นหาเมล็ดที่สมบูรณ์ ได้คุณภาพมากที่สุดนั่นเอง
แม้ในสมัยก่อนกาแฟโรบัสต้าจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากการควบคุมคุณภาพการผลิตที่เป็นได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีการคั่วในยุคนี้ที่ก้าวหน้าขึ้น จึงสามารถเข้ามาช่วยให้กาแฟชุมพรมีรสชาติและคุณภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะชงเป็นกาแฟสด นำไปผสมกับกาแฟอราบิก้าเพื่อรสชาติใหม่ๆ แปรรูปเป็นกาแฟกึ่งสำเร็จรูป หรือผลิตเป็นกาแฟกระป๋องพร้อมทาน ก็เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
สำหรับกาแฟ V Coffee นั้นเป็น กาแฟโรบัสต้าสูตรพรีเมียมจากชุมพร เป็นกาแฟโรบัสต้า 100% ที่ปลูก ณ พื้นที่จังหวัดชุมพร ด้วยกระบวนการที่ใส่ใจ ตั้งแต่กระบวนการเก็บ คัดเฉพาะผลที่มีความสมบูรณ์สุกเต็มที่ ผ่านกระบวนผลิตที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมและคงความเข้มของโรบัสต้าเป็นเอกลักษณ์
จังหวัดชุมพรนั้นมีสินค้าประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วย สมุนไพร หรือน้ำผึ้ง และมีอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้สินค
แนะนำ 5 สูตรชงกาแฟชุมพรสไตล์ Coffee X Juice สำหรับทุกคนที่กำลังมองหากิจกรรมยามว่าง และต้องการทำกาแฟรสชาติแปลกใหม่แบบง่ายๆ ดื่มเองที่บ้าน
กาแฟเป็นเมนูที่หลายๆ คนชอบที่จะได้ดื่ม เพราะทำให้มีตื่นตัว ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงรสชาติที่กลมกล่อม
© 2021 กาแฟเขาถ้ำสิงห์
ช่องทางที่ 1
วิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ เลขที่ 18 ม.1 ต. ถ้ำสิงห์ อ.เมือง ถ้ำสิงห์ เมืองชุมพร ชุมพร 86100ช่องทางที่ 2
การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิตอลฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เลขที่ 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร 10120